นาฬิกา audemars piguet แบรนด์ดีสุด ของแท้ ทุกรุ่น ทุกสภาพ

นาฬิกา audemars piguet

นาฬิกา audemars piguet หรือที่เรียกกันอย่างสั้นๆว่า AP เป็นแบรนด์นาฬิกายอดฮิตเป็นลำดับต้นๆของโลก อีกทั้งยังเป็นเยี่ยมในแบรนด์นาฬิการะดับ Holy Trinity ที่มีประวัติศาสตร์สำหรับในการผลิตนาฬิกามาอย่างเป็นเวลายาวนานกว่า 146 ปี ด้วยความชำนาญสำหรับการประดิษฐ์นาฬิกาที่มีความซับซ้อนอย่าง Grand Complication ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความประณีตและวิจิตรบรรจงแล้วก็ความสวยสดงดงามจากความรู้ความเข้าใจช่างคิดนาฬิกาชั้นสูง และก็มีคอลเลกชันอันสะดุดตาอย่าง Royal Oak

นาฬิกา audemars piguet ที่ทั่วโลกให้ความสนใจและเป็นที่เรียกร้องของนักสะสม

ตั้งแต่นี้ต่อไปมาดูกันว่าทางของ AP มีที่มาที่ไปอย่างไร และจากนั้นก็เพราะอะไรถึงครอบครองใจคนทั้งโลกได้มากขนาดนี้ AP แบรนด์นาฬิกาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างนาน เปิดตัวนาฬิกามาแล้วจำนวนไม่น้อยเยอะแยะรุ่น โดยเฉพาะนาฬิกา Royal Oak ที่เป็น Luxury Sport Watch หรือ นาฬิกาสปอร์ตหรู ยอดฮิตเป็นลำดับต้นๆของโลกซึ่งวันนี้ Auction House จะพาทุกคนมามองดูคอลเลกชันนาฬิกาขณะนี้ของแบรนด์ AP แล้วก็มาดูความหมายอันซับซ้อนของเลขอ้างอิง หรือที่เรียกกันว่า เลข Reference เพื่อทุกคนสามารถตีความของปริมาณและอักษรได้

  • สำหรับแบรนด์ ขณะนี้ จะแบ่งนาฬิกาทั้งหมดออกเป็น 4 คอลเลกชันหลัก ซึ่งหมายถึง Royal Oak, Royal Oak Offshore, Royal Oak Concept รวมถึง Code 11.59ประวัติศาสตร์เริ่มต้นของ เริ่มตั้งแต่ในปี 1875 ด้วยความร่วมแรงร่วมใจของช่างผู้ชำนาญด้านการซ่อมนาฬิกาวัย 23 ปี จูลส์-หฝ่าส์ โอเดอะมาร์ส (Jules-Louis Audemars) และหุ้นส่วนคนสำคัญ เอ็ดวาร์ด -ออกัสต์ ปิเกต์ (Edward August Piguet) ที่พึ่งพิงจะอายุเพียงแต่ 21 ปี หากแม้เมื่อความต้องการของทั้งคู่นั้นสอดคล้องเป็นไปในลักษณะเดียวกัน ทำให้หลังจากเจอะกันได้เพียงแต่ไม่นาน
  • ทั้งคู่ในฐานะช่างซ่อมนาฬิกามีชื่อในระดับประเทศที่ วัลเลย์ เดอ ฌูช์ ก็ตกลงปลงใจร่วมกันตั้งบริษัทที่แรกๆนั้นมีชื่อกันในชื่อ et Cie โดยมี Jules – Louis Audemars เป็นผู้ดูแลเรื่องการผลิตและจากนั้นก็ด้านเทคนิค ส่วน Edward August Piguet นั้นดูแลงานด้านแนวทางการขายและการตลาดที่หมั่นออกพบลูกค้าผ่านหลายเมืองสำคัญและอีกหลายทวีปอย่างมั่นคงถาวรแม้ว่าจะไม่ค่อยบรรลุเป้าหมายนักในระยะแรกๆซึ่งโดยความเป็นจริงแล้ว บริษัทยังไม่ได้เขียนเครื่องหมายกระทั่งในปี 1882 ด้วย รวมถึงบริษัทก็ยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการตราบจนกระทั่งปี 1889 อย่างไรก็ดี et Cie เปลี่ยนไปบริษัทใหญ่ที่มีจำนวนลูกจ้างสูงสุดเป็นชั้น 3 ของอุตสาหกรรมผู้ผลิตนาฬิกาในเมือง Vaud ซึ่งเสร็จจากความขมักเขม้นของบุคคลทั้งสองที่มีเป้าหมายสำหรับในการผลิตนาฬิกาความสามารถสูงมีความสลับซับซ้อนและมีความเที่ยงตรงสูงสุดจนถึงบรรลุผลในที่สุด

 

 

 

 

คราวหลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้ไม่นานทั้งคู่ก็เลยได้ตั้งสาขาอยู่ในกรุงเจนีวาและตกลงปลงใจผลิตส่วนประกอบแล้วหลังจากนั้นก็ประกอบเรือนนาฬิกา ทั้งสิ้นในโรงงานของตัวเอง ซึ่งทำให้บริษัทสามารถควบคุมสมรรถนะของนาฬิกาได้อย่างเคร่งครัด แล้วก็มั่นใจได้ว่ามีเฉพาะนาฬิกาความสามารถสูงได้มาแบรนด์ฐานเท่านั้นที่จะสามารถส่งออกจากโรงงานของพวกเขาได้ ทำให้ไม่น่าสงสัยเลยว่าในระหว่างตอนปี 1894-1899 มีนาฬิกาเพียง 1,208 เรือนเท่านั้นเองที่ได้รับการผลิต ซึ่งในจำนวนนี้บางส่วนนั้นเป็นนาฬิกาที่มีความสลับซับซ้อนและก็ทันสมัยสูงสุด ซึ่งก็แล้วก็นาฬิกาที่ตำนานรุ่น ‘กรองด์ คอมพลิเคชั่น ‘(Grande Complication) ที่ยังคงมีการผลิตโดยตลอดจนถึงทุกวันนี้ เพราะว่าเกียรติคุณและการได้รับความเชื่อมั่นและมั่นใจจากบุคคลทั้งโลก เพราะนอกจากบอกเวลาเหมือนเดิมแล้ว Grande Complication รุ่นนี้ ยังมีระบบระเบียบระฆังบอกนาที บอกปฏิทินชั่วชีวิต แล้วก็ระบบโครโนกราฟ แทรกสอดมาให้อย่างสมบูรณ์ด้วย

ราวปี 1914 ได้ตั้งโครงการปรับปรุงแก้ไขนาฬิกาให้มีความสลับซับซ้อนทำให้จำเป็นจะต้องใช้เวลาถึง 6 ปีสำหรับเพื่อการผลิตโดยตลอดก่อนจะนาฬิกา นาฬิกา audemars piguet จะถูกส่งไปยังผู้นำเข้า Guignard & Golay ในกรุงลอนดอน ซึ่งนาฬิกาที่กล่าวถึงนี้ก็คือนาฬิกาพกที่มีสองหน้าปัดและกลไกทูร์บิญองบประมาณอกนาทีและก็มีทั้งฟังก์ชั่นตีระฆังบอกนาที ระบบจับเวลาโครโนกราฟ ระบบปฏิทินตลอดชีวิต เวลาข้างขึ้น – ข้างแรมของพระจันทร์ และบอกพลังสำรองของลานส่วนบน อีกหน้าปัดหนึ่งนั้นแสดงเวลาเสริมเติมแบบ 24 ชั่วโมง ที่ชี้เวลาด้วยเข็ม 2 เข็ม พร้อมระบบพิเศษที่ทำให้สามารถเห็นการเคลื่อนที่ของฟ้าบนกรุงลอนดอนอีกทั้งตอนกลางวันรวมทั้งค่ำคืนผ่านช่องเปิดรูปวงรีบนหน้าปัดด้านหลังซึ่งบนฟ้านั้นมีดาวจำนวน 315 ดวงสลักไว้บนพื้นหน้าปัดชุบทองแล้วก็ลงยาด้วยสีฟ้า ทั้งสลักชื่อของกลุ่มดาวเอาไว้อย่างชัดเจน การสร้างเรื่องแปลกใหม่ที่ไม่มีผู้ใดเคยเดาว่าจะเป็นไปได้นี้ทำให้ชื่อของ โด่งดังแล้วก็ถูกโจษขานกันมากขึ้นเรื่อยๆ

แม้ว่าตามทางของตำนานก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบดอกกุหลาบเสมอ

เมื่อความเสร็จที่มีโดยตลอดของ ชะงักงันในปี 1929 ที่บริษัทขายนาฬิกาได้เพียงแค่ 737 เรือนเท่านั้น ซึ่งแตกต่างจากยอดขายในปี 1920 ที่มีอยู่ราว 2,000 เรือนอย่างสิ้นเชิง เพราะว่าปัญหาที่เกิดขึ้นทางด้านการตลาดและก็วิกฤติทางด้านเศรษฐกิจที่ทำให้ลูกค้าผู้มีกำลังซื้อนาฬิกาแพงๆลดลง สุดท้าย จำเป็นจะต้องปลดพนักงานและช่างซ่อมนาฬิกาออกโดยตลอด ตราบจนกระทั่งในปี 1932 มีนาฬิกาเพียงแค่ 2 เรือนเท่านั้นที่บริษัทผลิตออกมาบางทีอาจปฏิเสธไม่ได้ว่าโอเดอมาร์ ปิเกต์ () เป็นแบรนด์ชั้นหนึ่งของวงการ ‘เรือนเวลาชั้นสูง’ ที่บรรดานักสะสมนาฬิกาต่างตั้งใจจอง ด้วยประวัติศาสตร์อันนานแทบจะ 150 ปี ตั้งแต่แมื่อก่อตั้งแบรนด์ในปี 1875 ประกอบกับคุณภาพชั้นหนึ่ง

ในรูปลักษณ์อันสะดุดตา ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเรือนเวลารุ่นใดก็ตามต่างก็มีเอกลักษณ์ที่เป็นเสน่ห์เฉพาะตัว

พร้อมประดิษฐ์ความคูลคู่แค้นหรูหราหรูหราให้กับผู้ใส่ไว้ภายในทุกๆไลฟ์สไตล์ นำมาซึ่งการทำให้โอเดอมาร์ ปิเกต์ถือครองความชอบพอในแวดวงผู้เผลอในกลไกเวลาตลอดมา อีกหนึ่งแบรนด์นาฬิกาหรู ผู้เป็นพวก Holy Trinity of Haute Horlogerie ตั้งแต่หนแรกเริ่มดีไซน์นาฬิกาพกพา ตำแหน่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ ด้วยความที่นาฬิกาอันแสนล้ำยุคจาก Vallée Joux ได้พิสูจน์ความเหนือชั้นทางเทคนิคอย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งยังมากไม่น้อยเลยทีเดียวด้วยเสน่ห์จากการออกแบบที่สะดุดตา ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเหตุผลที่เรารัก นั้นมีหลายชิ้น แต่ในวันนี้เรามาพร้อมกับอีก 10 เหตุผลทำให้คุณควรต้องตกหลุมรัก อย่างปฏิเสธไม่ได้

การผลิตที่ไม่ขึ้นตรงกับคนไหนกันตั้งแต่การก่อตั้งในปี 1875 ตราบจนกระทั่งตอนนี้ เป็นเยี่ยมในบริษัทได้รับการดูแลภายใต้ครอบครัวผู้ก่อตั้งโดยตลอด ซึ่งสิ่งนี้จะไม่มีทางเป็นไปได้แปรไปอย่างแน่แท้ในอนาคต เพราะเหตุว่า อยากได้แสดงถึงจิตวิญญาณที่อิสระ ซึ่งบอกได้ว่าหายากขึ้นบ่อยในช่วงปัจจุบันที่หลายๆแบรนด์ต่างก็ต้องพึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่ในการดูแลหรือถูกแปลงผ่านมือจากผู้ผลิตคนแรกมาเป็นคนใหม่ ซึ่ง Olivier Audemars รองประธานของ เคยกล่าวไว้ว่า

 

 

“ เป็นมากกว่าบริษัท บริษัทยังคงเป็นอิสระจากมือผู้อื่นรวมทั้งยังคงเป็นมรดกของครอบครัวโดยตลอด

ซึ่งเรารับผิดชอบสำหรับในการถ่ายทอดความรู้แล้วก็กระบวนการแก่คนรุ่นหลังเอาไว้ในที่นี้ ใน Le Brassus ที่ที่ซึ่งทั้งหมดทุกอย่างเริ่มในปี 1875”ถือได้ว่าคำกล่าวที่แสดงจุดยืนอย่างแจ่มแจ้งจากตำแหน่งของตนว่า นั้นตั้งมั่นและให้ความยำเกรงต่อตัวเองยังไง แล้วก็เมื่อวิเคราะห์จากผลสรุปที่ว่า เป็นผู้ผลิตนาฬิกาอันเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่เรียกร้องเยอะที่สุดในยุคของเรา อีกทั้งเป็นพวกที่ไม่ผิดกฎหมายของ Holy Trinity ยิ่งตอกย้ำซ้ำเติมว่าสิ่งนี้จะไม่มีทางเป็นไปได้แปรไปได้ง่ายๆGérald Genta และ Royal OakGérald Genta ผู้ดังแล้วก็เป็นตำนานด้วยการโด่งดังจากผลงานการออกแบบที่สะอาดตาและการตีความหมายการออกแบบที่ล้ำสมัยกว่าคนไหน การสร้างสรรค์อันไม่มีที่ว่ากล่าวของเขาได้ดึงดูดใจผู้ที่รู้สึกชื่นชอบนาฬิกาทั่วโลก

ทั้งช่วยเหลือให้หลายแบรนด์ไม่ต้องล้มเลิกกิจการ ซึ่ง Royal Oak Collection อันมีชื่อเสียงมีต้นกำเนิดโดยตรงจากปลายปากกาของ นาฬิกา audemars piguet Gérald Genta เวลาที่นาฬิกาเลื่องลืออีกเรือนหนึ่งของเขาอย่าง Patek Philippe Nautilus นั้นชักชวนให้นึกถึงช่องหน้าต่างเรือ ตรงข้ามการออกแบบ Royal Oak นั้นดันมีความเหมือนกันกับหมวกมุดน้ำจากยุค 1920 ถึง 1930ลายเซ็นของ Gérald Genta นั้นปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัดในนาฬิกาทั้งสองรุ่น ไม่เฉพาะแต่เพราะตัวบ้านและสายนาฬิกาที่ดูกลมกลืนเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน แม้กระนั้นยังเป็นเนื่องด้วย Genta ให้ความใส่ใจกับการออกแบบของทั้งสองรุ่นด้วยธีมการเดินเรือ เขาสามารถผสมลักษณะของธรรมชาติของการเดินเรือกับประวัติความเป็นมาและก็แหล่งที่มาของแบรนด์ได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งท่านจะเห็นความพิเศษนี้ได้ก็เมื่อมองหามันอย่างตั้งใจเท่านั้นเอง วันนี้ Royal Oak Series เป็นเยี่ยมในนาฬิกาข้อมือที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกรวมทั้งสมควรที่จะได้รับรางวัลในลิสต์เหตุผลที่ทำให้เราหลงเสน่ห์

ชื่อของคอลเล็กชั่นใหม่ที่โอเดอมาร์ ปิเกต์ แต่งตั้งขึ้น เรียกว่ายอดยอดเยี่ยมวินาทีที่กลับโฉมประวัติศาสตร์

ของแบรนด์พร้อมฉีกทุกกฎข้อปฏิบัติเพื่อนำเสนอความโมเดิร์นล้ำสมัย แต่ยังคงจิตวิญญาณของแบรนด์เอาไว้ได้อย่างเหมาะควร และแม้ว่าคอลเล็กชั่นนี้จะถูกเปิดตัวไปแล้วเมื่อต้นปี 2019 หากว่าความสะดุดตาด้านการออกแบบอย่างพอดิบพอดีเป็นสิ่งที่เราต้องการจะเสนอมากยิ่งกว่าเดิมล่าวกันอีกรอบ ด้วยดีไซน์ที่ดีไซน์มาให้สวมได้ทั้งยังหญิงรวมถึงชาย และหน้าปัดทรงกลมที่รับกับข้อมือได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่เทอะทะหรือเล็กจิ๋วหากแม้อยู่ในรูปร่างที่พอดิบพอดี แล้วก็ความวิจิตรบรรจงในการวางแบบส่วนโค้งเว้ากลับไม่ได้เป็นเหตุให้เกิดความจำเจหรือซ้ำจากจำเจแม้แต่น้อย

ประวัติศาสตร์ของแบรนด์ ได้เริ่มขึ้นในปี คริสต์ศักราช 1875 เมื่อ Jules Louis Audemars (จูลส์-หฝ่าส์ โอเดอะมาร์ส) แล้วก็ Edward August Piguet (เอ็ดวาร์ด -ออกัสต์ ปิเกต์) เพศชายช่างผู้ชำนาญด้านการซ่อมนาฬิกามากไม่น้อยเลยทีเดียวความรู้ความเข้าใจทั้งสองคน ที่มีความมุ่งมั่นอันแรงกล้าต้องการจะประดิษฐ์นาฬิกาที่มีความซับซ้อนความสามารถสูง ทั้งคู่ได้ตกลงปลงใจร่วมกันตั้งโรงงานขึ้นในหมู่บ้าน Le Brassusในเมือง Vallée de Joux ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แล้วก็ตั้งบริษัทขึ้นในปี คริสต์ศักราช 1881 ในชื่อ & Cieคอลเลกชัน Royal Oak เปิดตัวหนแรกในปี 1972 ฉีกกรอบการออกแบบนาฬิกาแบบเดิมๆไปอย่างสิ้นเชิง เพราะว่านาฬิการุ่นนี้เป็นสไตล์ Sport Luxury แบบที่ AP ไม่เคยทำมาก่อน สะดุดตาด้วยตัวบ้านทรงแปดเหลี่ยม หน้าปัดสีน้ำเงินลายตาราง Petite Tapisserie พร้อมตัวนอตทรงหกเหลี่ยมทำมาจากทองตกแต่งอยู่ทุกมุมบนกรอบหน้าปัดแม้ว่าจะเสือกสน แต่ว่าไม่เคยคิดยอมยกธงขาว ในที่สุดบริษัทก็สามารถกลับฟื้นขึ้นด้านหลังสงครามโลกครั้งที่ 2Audemars Piguet

  • เนื่องมาจากความสำเร็จของระบบโครโนกราฟที่พวกเขาประดิษฐ์ขึ้นและการสร้างนาฬิกาที่มีความบางพิเศษ นาฬิกา audemars piguet  (ซึ่งใช้กลไกขนาด 9 ligne calibre 2003) แล้วก็ในระหว่างทศวรรษ 1950 และ 1960 ยอดขายของบริษัทก็กลับพุ่งขึ้นอีกครั้ง ต่อมาในปี 1967 ได้ร่วมมือกับเจเกอร์ เลอคูลทร์ ( Jaeger LeCoultre) สร้างสถิติใหม่ด้วยการประดิษฐ์กลไกอัตโนมัติที่บางที่สุดเพียง 2.45 มิลลิเมตร
  • ซึ่งมีโรเตอร์ตรงกลางทำด้วยทองคำ 21K แล้วก็เพียงแค่ 3 ปีต่อมมาเป็นในปี 1970 ช่างทำนาฬิกาของ ก็ได้สร้างกลไก บางที่สุดในโลกครึ้มเพียง 3.05 มิลลิเมตรที่สามารถรวมเอาฟังก์ชั่นแสดงวันที่แล้วก็โรเตอร์ตรงกลางซึ่งทำมาจากทองมาไว้ด้วยกัน รวมทั้งปีที่สำคัญมากที่ประวัติศาสตร์ ก็คือปี 1972 ที่บริษัทได้สร้างนาฬิการุ่นยอดนิยมแล้วก็ยังมีชื่อโดยตลอดจวบจนในเวลานี้โน่นเป็น นาฬิการุ่น ” รอยัล โอ็ก” (Royal Oak) ซึ่งได้รับการออกแบบโดยผู้เป็นตำนานที่ช่างซ่อมนาฬิกา เฌรัลด์ ฌองตา กับตัวบ้านทรง https://autisme-vienne.org/