ประวัติ วอลเลย์บอล

ประวัติ วอลเลย์บอล

ประวัติ วอลเลย์บอล ความเป็นมาวอลเลย์บอล กีฬาวอลเลย์บอลถือเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1895 โดยนายวิลเลียม จี. มอร์แกน และนายเจมส์ ไนท์สมิธ ผู้อำนวยการฝ่ายพลศึกษาของสมาคม Y.M.C.A. เมืองฮอลโยค รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศอเมริกา ซึ่งได้เกิดขึ้นเพียง 1 ปี ก่อนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกสมัยใหม่ ครั้งที่ 1 ณ กรุงเอเธนส์ โดยเขามีความนึกคิดมีความต้องการให้มีกีฬาเพื่อเล่นในตอนฤชมหนาวแทนกีฬากลางแจ้งเพื่อจะออกกำลังกายพักผ่อนหย่อนใจยามหิมะตก ประวัติ วอลเลย์บอล

ประวัติ วอลเลย์บอล

เขาได้เกิดแนวคิดที่จะนำรูปพรรณและขั้นตอนการ เล่นของกีฬาเทนนิสมาดัดแปลงใช้เล่น จึงใช้ตาข่ายเทนนิสซึ่งช่วงเสาโรงยิมเนเซียม สูงจากพื้นโดยประมาณ 6 ฟุต 6 นิ้ว และใช้ยางในของลูกบาสเกตบอลสูบลมให้แน่น แล้วใช้มือและแขนตีโต้ข้ามตาข่ายกันไปมา แต่เพราะว่ายางในของลูกบาสเกตบอลเบาเกินไป นำมาซึ่งการทำให้ลูกบอลเขยื้อนช้าและทิศทางที่เคลื่อนที่ไปไม่แน่นอน จึงแปลงมาใช้ลูกบาสเกตบอล แต่ลูกบาสเกตบอลก็ใหญ่ หนักและแข็งเกินความจำเป็น ส่งผลให้มือของผู้เล่นได้รับบาดเจ็บปวด

จนท้ายที่สุดเขาก็เลยให้บริษัท Ant G. Spalding and Brother Company ผลิตลูกบอลที่หุ้มด้วยหนังและบุด้วยยาง มีเส้นรอบวง 25-27 นิ้ว มีน้ำหนัก 8-12 ออนซ์ ภายหลังจากทดทดสอบเล่นแล้ว เขาก็เลยชื่อเกมการเล่นนี้ว่า “มินโทเนตต์” (Mintonette)

ค.ศ.1896 ได้มีการประชุมสัมมนาผู้บังคับบัญชาทางพลศึกษาที่วิทยาลัยสปริงฟิลด์ (Spring-field College) นายวิลเลียม จี มอร์แกน ได้สาธิตแนวทางการเล่นต่อหน้าที่ประชุมหลังจากที่ประชุมได้ดูการแสดงตัวอย่าง ศาสตราจารย์ อัลเฟรด ที เฮลสเตด (Alfred T. Helstead) ได้บอกต่อให้มอร์แกนเปลี่ยนจากมินโทเนตต์ (Mintonette) เป็น “วอลเลย์บอล” (Volleyball) โดยให้ความคิดเห็นว่าเป็นวิธีการเล่นโต้ลูกบอลให้ลอยข้ามตาข่ายไปมาในอากาศ โดยผู้เล่นเพียรพยายามไม่ให้ลูกบอลตกพื้น

ค.ศ. 1928 ดร.หน้าจอร์จ เจ ฟิเชอร์ (Dr. George J. Fisher) ได้ปรับแต่งและเปลี่ยนแปลงข้อตกลงการเล่นวอลเลย์บอล เพื่อใช้ในการแข่งกีฬาวอลเลย์บอลในลำดับชั้นชาติ และได้เปิดเผยแพร่กีฬาวอลเลย์บอลจนได้รับสมญานามว่า บิดาแห่งกีฬาวอลเลย์บอล

ประวัติกีฬาวอลเลย์บอล และที่มาที่ไปสหพันธ์วอลเลย์บอลยาวนานาชาติ

ปี ค.ศ. 1895

นายวิลเลียม จี มอร์แกน (William G.Morgan) ได้คิดค้นหาเกมการเล่นวอลเลย์บอลขึ้น ที่สมาคม Y.M.C.A. ในเมืองโฮลโยค รัฐแมสซาชูเซตส์ (Holyoke, Massachusetts) ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยใช้ชื่อ มินโตเนต (Mintonette)

ปี ค.ศ. 1896

ศาสตราจารย์อัลเฟรด ที ฮอลสเตด (Prof.Alfred T.Halstead) ได้เสนอให้แปลงชื่อจาก “มินโตเนต (Mintonette)” เป็น “วอลเลย์บอล (Volleyball)”

ปี ค.ศ. 1898

ประเทศแคนาดาได้พัฒนากีฬาวอลเลย์บอลเพื่อเป็นกิจกรรมนันทนาการ (Recreation Activity)

ปี ค.ศ. 1905

ศาสตราจารย์เจ ฮาวาร์ด โครเกอร์ (Prof J. Haward Crocher) ได้นำกีฬาวอลเลย์บอลเข้าไปเผยแพร่ในประเทศจีน (China)

ปี ค.ศ. 1908

นายแฟรงกิน เอช บดังน์ (Franklin H.Brown) ได้นำกีฬาวอลเลย์บอลเข้าไปเผยแพร่ในประเทศญี่ปุ่น (Japan)

ที่มาที่ไปวอลเลย์บอล ปี ค.ศ. 1910

นายเอลวู๊ด เอส บเหมือนกับน์ Elwood S.Brown ช่วยจัดตั้งสมาคมวอลเลย์บอลในประเทศฟิลิปปินส์ (Philippines)

ปี ค.ศ. 1913

ได้มีการบรรจุกีฬาวอลเลย์บอลเข้าในการแข่งขันชิงชัยกีฬาภาคพื้นพระอาทิตย์ออกไกล (Far Eastern Games) ครั้งที่ 1 ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ (Manila, Philippines)

ปี ค.ศ. 1918

ได้เจาะจงให้ใช้ผู้เล่นข้างละ 6 คน

ปี ค.ศ. 1922

ได้ชี้เฉพาะกติกาให้แต่ละกลุ่มเล่นลูกได้ไม่เกิน 3 ครั้ง และได้เกิดการก่อตั้งสมาคมวอลเลย์บอลและบาสเกตบอลขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศเชคโกสโลวาเกีย

ปี ค.ศ. 1928

มีการจัดตั้งสมาคมวอลเลย์บอลขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา เกิดการจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลชิงชนะเลิศแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา ครั้งที่ 1 ที่ Brooklyn Central Y.M.C.A. (USA National Volleyball Championships)

ปี ค.ศ. 1933

ได้จำนวนกีฬาวอลเลย์บอลหญิงในการแข่งขันกีฬา Central American และ Caribbean Game ในกรุงซาน ซิลวาดอร์ (San Salvador) ประเทศเอลซัลวาดอร์ (El Salvador)

ปี ค.ศ. 1934

มีการก่อตั้งคณะกรรมการกีฬาวอลเลย์บอลช้านานาชาติเป็นครั้งแรกภายใต้สหพันธ์แฮนด์บอล

ปี ค.ศ. 1946

ประเทศโปแลนด์ คนต่างประเทศเศส เชคโกสโลวาเกีย สหรัฐอเมริกา สหภาพโซเวียตรัสเซียและโรมาเนีย ได้ด้วยกันตั้งขึ้นคณะกรรมการที่ดำเนินงานด้วยตัวเองขึ้นครั้งแรก

การก่อตั้งสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ

ปี ค.ศ. 1947

14 ประเทศ ได้ร่วมกันก่อตั้งสหพันธ์วอลเลย์บอลช้านานาชาติ (The Federation International De Volleyball : FIVB) ขึ้นในกรุงปารีส ประเทศคนต่างประเทศเศส และได้เลือกนายพอล ลิบอร์ด (Paul Libaud) เป็นผู้บริหารสหพันธ์คนแรก โดยมีประเทศที่ร่วมกันตั้งขึ้น แถมยังมี สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เชคโกสโลวาเกีย โปแลนด์ อียิปต์ อิตาลี เนเธอแลนด์ เบลเยียม โปรตุเกส โรมาเนีย ตุรกี บราซิล อุรุกวัย ยูโกสลาเวีย (อิสราเอลและเลบานอนได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกในปี ค.ศ. 1949)

ปี ค.ศ. 1948

การประลองวอลเลย์บอลชิงชนะเลิศแห่งทวีปยุโรป ครั้งที่ 1 ชนิดชาย ที่กรุงโรม เวลาวันที่ 24-26 กันยายน

ปี ค.ศ. 1949

จัดการประลองวอลเลย์บอลชิงชนะเลิศของโลกเป็นครั้งแรก ณ กรุงปราก (Prague) ประเทศเชคโกสโลวาเกีย (Czechoslovakia)

คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (International Olympic Committee-IOC) ได้ประกาศรับรองกีฬาชนิดนี้ แต่ยังอยู่ด้านในสถานะกีฬาที่ไม่ได้มีการแข่งขันชิงชัยในกีฬาโอลิมปิก (Non Olympic Sport)

การแข่งขันชิงแชมป์โลก จำพวกทีมชาย (Men’S World Championships) ครั้งแรก ณ กรุงปราก (Prague)

การแข่งขันชิงแชมป์ยุโรป (European Champions) จำพวกทีมหญิงครั้งแรก ณ กรุงปราก (Prague)

เกิดการใช้ระบบการรุก 3 คน และมีการล้ำแดนของตัวเซตที่อยู่แดนข้างหลัง

ปี ค.ศ. 1951

อนุญาตให้มือสามารถล้ำเหนือตาข่ายได้ ภายใต้ข้อจำกัดคือการสกัดกั้น

ปี ค.ศ. 1952

การแข่งขันชิงชัยชิงแชมป์โลก จำพวกทีมสตรี (Women’S World Championships) ครั้งแรก ณ กรุงมอสโคว์ ประเทศรัสเซีย (Moscow, Russia)

ปี ค.ศ. 1955

กีฬาวอลเลย์บอลได้ถูกจำนวนเข้าใน “แพนอเมริกันเกม ครั้งที่ 2” (The 2nd Pan American Games) ณ เมืองเม็กซิโกซิตี้ (Mexico City)

นายมาซาอิชิ นิชิกาว่า (Masaichi Nishikawa) นายกสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศญี่ปุ่นได้ก่อตั้งสหพันธ์วอลเลย์บอลแห่งเอเชีย (Asian Volleyball Confederation : AVC) ขึ้น

ปี ค.ศ. 1956

จัดการประลองวอลเลย์บอลชาย-ผู้หญิงชิงแดูป์โลกในขณะเดียวกันเป็นครั้งแรก ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส (Paris, France) โดยมีกลุ่มชาย 24 กลุ่ม และ เพศหญิง 17 ทีม

ปี ค.ศ. 1957

คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ได้เกิดการประชุมที่เมืองโซเฟีย ประเทศบัลแกเรีย (Sofia, Bulgaria) และยอมรับกีฬาวอลเลย์บอลเข้าเป็นกีฬาชนิดหนึ่งในกีฬาโอลิมปิก และประกาศให้สหพันธ์วอลเลย์ยาวนานาชาติ (FIVB) เป็นองค์กรกีฬาสากลมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายนฯลฯไป

ปี ค.ศ. 1961

คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) และคณะกรรมการจัดการแข่งขันชิงชัยโอลิมปิก (OCOG : Organising Committee of The Olympic Game) แห่งประเทศญี่ปุ่น ได้จำนวนกีฬาวอลเลย์บอลเข้าเป็นกีฬาชนิดหนึ่งในการประลองกีฬาโอลิมปิกที่จัดขึ้นที่กรุงโตเกียวด้วย

ปี ค.ศ. 1963

สหพันธ์วอลเลย์บอลยุโรป (The European Volleyball Confederation : CEV) ได้ตั้งขึ้นคณะกรรมการในโซนของยุโรป

ปี ค.ศ. 1964

กีฬาวอลเลย์บอลชาย-สตรีได้ถูกจำนวนเข้าในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเป็นครั้งแรกที่จัดขึ้นที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น (เหรียญทองคำสตรี เช่น ทีมญี่ปุ่นเหรียญทองคำชาย ได้แก่ กลุ่มสหรูปโซเวียตรัสเซีย)

ได้มีการปรับแก้ข้อตกลงการสกัดกั้นใหม่ (อนุญาตให้มือทั้งสองลำ้เหนือตาข่ายและอนุญาตให้ถูกลูกณ เวลาสกัดกั้นเกินกว่า 1 ครั้งได้)

ชิงชัยวอลเลย์บอลเวิลด์คัพชายครั้งแรก

ปี ค.ศ. 1965

การแข่งขันชิงชัยเวิลด์คัพชาย ครั้งที่ 1 ณ กรุงวอซอร์ ประเทศโปแลนด์ (Warsaw, Poland)

เกิดการจัดตั้งคณะกรรมการในโซนแอฟริกาขึ้น

ปี ค.ศ. 1966

Dr.Ruben Acosta ได้จัดตั้งคณะกรรมการโซนอเมริกากลางและโซนคาริเบียนขึ้น

ปี ค.ศ. 1968

สหรัฐอเมริกาและแคนาดาได้ร่วมโซนอเมริกากลาง เพื่อก่อตั้งสหพันธ์วอลเลย์บอล แห่งทวีปอเมริกาเหนือและอเมริกากลาง (NORCECA) ตามคำแนะนำของ Dr.Ruben Acosta

ปี ค.ศ. 1971

ได้เกิดการจัดหลักสูตรผู้ฝึกหัดสอนลำดับนานาชาติขึ้นครั้งแรก โดยสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศญี่ปุ่น ภายใต้การทำงานของ Mr.Yutaka Maeda และ Mr.Hiroshi Toyoda

ปี ค.ศ. 1972

สหพันธ์วอลเลย์บอลทั้ง 5 ทวีป เป็นต้นว่า เอเชีย (AVC), แอฟริกา (CEV), อเมริกาใต้ (CSV), อเมริกาเหนือและอเมริกากลาง (NORCERA) ได้จัดตั้งคณะกรรมการฝ่ายแข่งกีฬาของแต่ละทวีปขึ้น โดยการพิสูจน์โดยสหพันธ์ของแต่ละทวีป

ปี ค.ศ. 1973

การประลองวอลเลย์บอลเวิลด์คัพหญิง ครั้งที่ 1 ที่ประเทศอุรุกวัย (Uruguay)

ปี ค.ศ. 1974

มีการถ่ายทอดสดเป็นครั้งแรกในการแข่งขันชิงชัยวอลเลย์บอลชาย-สตรีชิงแชมป์โลกจากประเทศเม็กซิโกไปยังประเทศญี่ปุ่นและประเทศอื่นๆ อีกหลายประเทศ

ปี ค.ศ. 1975

เกิดการจัดประชุมและสนับสนุนมินิวอลเลย์บอลขึ้นที่ประเทศสวีเดน

มีการจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลผู้หญิงชิงชนะเลิศแห่งทวีปแอฟริกา ณ เมืองดากา ประเทศเซเนกัล (Dakar, Senegal)

ปี ค.ศ. 1976

Dr.Ruben Acosta ได้คิดสืบค้นระบบวิธีการใช้ลูกบอล 3 ลูก และอนุญาตให้เล่นได้อีก 3 ครั้ง หลังการสกัดกั้นได้ถูกนำมาใช้เพื่อสำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกม ณ เมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา (Montreal, Canada)

ความกว้างขวางของตาข่ายถูกลดให้เหลือ 9 เมตร

ปี ค.ศ. 1977

การแข่งขันชิงชัยอันดับเยาวชน (อายุตำ่ กว่า 21 ปี ) ชาย-หญิง ชิงแชมป์โลกจัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่ประเทศบราซิล (Brazil)

ปี ค.ศ. 1980

ข้อตกลงของสหพันธ์วอลเลย์บอลยาวนานาชาติ (FIVB) ได้มีการพัฒนาขึ้นเป็น 2 ศัพท์แสง เช่น ศัพท์แสงชาวต่างชาติเศสและถ้อยคำสเปนเป็นครั้งแรก ตามผลจากการนำเสนอของประเทศเม็กซิโก สำหรับในการประชุมใหญ่ที่กรุงมอสโคว์และได้มีการรับรองเกี่ยวกับนักกีฬาอาชีพ

ปี ค.ศ. 1982

ได้มีการลดแรงดันลมของลูกบอลจาก 0.45 เป็น 0.40 กิโลกรัม /กำหนดการเซนติเมตร

ปี ค.ศ. 1984

Dr.Ruben Acosta ได้รับคัดเลือกให้ขึ้นเป็นผู้บริหารสหพันธ์วอลเลย์บอลช้านานาชาติ (2nd FIVB President) แทนนาย Pual Libaud ผู้ตั้งขึ้นสหพันธ์ฯ

สำนักงานใหญ่ของสหพันธ์ฯ ได้ย้ายจากกรุงปารีสไปยังเมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (Lausame, Switzerland)

ปี ค.ศ. 1985

คณะกรรมการจัดการสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติได้ให้การพิสูจน์ 5 โครงการหลัก เพื่อที่จะพัฒนาวอลเลย์บอลของโลก ซึ่งพรีเซ็นท์โดย Dr.Ruben Acosta และมีเจตนามุ่งหมายเพื่อที่จะยกฐานะวอลเลย์บอลขึ้นสู่ชั้นกีฬาอาชีพ

ได้เกิดการจัดการประลอง World Gala เป็นครั้งแรกที่กรุงปักกิ่งและเมืองเซี่ยงไฮ้ โดยทีมสตรีของประเทศจีนเจอกับทีมซุปตาของโลก การแข่งขันชิงชัยวอลเลย์บอลชายหาดชิงแดูป์โลกได้จัดเป็นครั้งแรกที่ประเทศบราซิล

ปี ค.ศ. 1990

การแข่งขันชิงชัย วอลเลย์บอลเวิลด์ลีก (World League) ได้เริ่มต้นขึ้นเป็นครั้งแรก มีการจัดการประลองมากยิ่งกว่า 20 เมือง จาก 8 ประเทศ ร่วมแข่งเพื่อชิงเงินสิ่งตอบแทน 1 ล้านเหรีญสหรัฐ

 

 

autisme-vienne