หนังกีฬาฟุตบอล
หนังกีฬาฟุตบอล Sport กีฬา TROUBLE WITH THE CURVE (2012) หนังเอ่ยถึงเรื่องราวของ “กัส” (Clint Eastwood) แมวมองนักกีฬาเบสบอลรุ่นเก๋าที่อยู่ในวัยใกล้ถึงฝั่งอย่างมาก แต่ด้วยความรักที่มีต่อเบสบอลและจิตใจที่ไม่ยอมแพ้ต่อสังขาร กัสยังคงฝืนทำหน้าที่แมวมองถัดไป และก็เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่ายังดำเนินการได้ เขาก็เลยเริ่มเดินทางไปยัง Atlanta และบุตรสาว (Amy Adams) เพื่อไปดูฟอร์มการเล่นของนักกีฬาเบสบอลแบบใหม่ ที่นี่เอง
กัสแล้วก็ลูกสาวจึงค่อยๆเริ่มปรับความเกี่ยวพันระหว่างบิดาลูกและก็ช่วยเหลือเจือจุนกันเฟ้นหา หนังกีฬา ฟุตบอล นักเบสบอลผู้มีพรสวรรค์โดยอาศัยประสบการณ์และสัญชาตญาณแมวมองระดับเทวดาของกัสพูดได้ว่า TROUBLE WITH THE CURVE เป็นได้ทั้งยังหนังกีฬา หนังรัก หนังครอบครัว Sport กีฬา หนังเสียดสีธุรกิจกีฬา หรือแม้กระทั้งหนังสะท้อนชีวิตคนวัยแก่ที่เต็มไปด้วยอารมณ์และก็รสนานัปการ
“กีฬากีฬาเป็นยาวิเศษ”
ตัวหนังมีความ ดราม่าในระดับที่กำลังพอดี ไม่เข้มข้นเหลือเกิน ในเวลาเดียวกันก็ทำให้เห็นถึงพัฒนาการด้านความสัมพันธ์ของศิลปิน โดยเฉพาะ “กัส” ที่ใช้เวลาตลอดชีวิตไปกับกีฬาที่ตนเองรักจนกระทั่งห่างเหินกับคนที่อาศัยอยู่ในครอบครัวแม้กระนั้นเมื่อวัยแก่มาถึง ทุกคนต่างต้องการครอบครัวหรือใครบางคนที่จะคอยบอกเราว่าชีวิตเรายังมีค่า
เราไม่ได้คอยความตายอย่างโดดเดี่ยว ด้วยเหตุนั้น TROUBLE WITH THE CURVE ถือว่าเป็นหนังกีฬาที่แฝงไปด้วยความรู้สึกอบอุ่นของครอบครัวที่ไม่ค่อยเจอในหนังกีฬาเท่าไรนัก ไม่แน่ว่าถ้าหากคุณดูหนังเรื่องนี้จบ คุณอาจจะเข้าหัวใจคนวัยชราในครอบครัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆก็เป็นไปได้หนังประเด็นนี้ Sport กีฬา เป็นหนังที่ชัดแจ้งที่สุดกับคำว่า “ไม่ยอมแพ้” เนื่องด้วยหนังหัวข้อนี้ดำเนินเรื่องด้วยความ “ไม่พร้อม” ไปเสียทุกๆสิ่งทุกๆอย่าง
แม้ว่าด้วยความไม่พร้อมนั่นแหละ ทำให้ไม่รู้เพียงพอ รวมทั้งเติมเต็มให้พร้อมเท่าที่จะทำเป็น ทำให้จึงควรพยายามมากกว่าคนอื่นๆ หนักกว่าคนอื่นๆแล้วก็นั่นแหละเมื่อพวกเราไม่ยอมแพ้ผลที่ได้ก็เป็นเหมือนกับหนังเรื่องนี้ครับ
Seabiscuit
เป็นเรื่องราวสุดแสนจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนคนจำนวนไม่น้อย ซึ่งสร้างจากข้อเท็จจริงของ ชาร์ล โฮเวิร์ด แต่ก่อนช่างซ่อมรถเขามีม้าแคระแกร็นตัวหนึ่งชื่อเดียวกับชื่อซึ่งก็คือ Seabiscuit จนกระทั่งเขาได้มาเจอกับอดีตสมัยนักมวยที่ตาเสียไปหนึ่งข้างอย่าง เรด พอลลาร์ด ซึ่งจะมาเป็นจ๊อกกี้แข่งขันม้าให้กับเขา พร้อมทั้งโบราณกาลจ๊อกกี้มีชื่ออย่าง ทอม สมิธ ที่จะมาเป็นผู้ฝึกสอนให้เรื่องราวของผู้คนกลุ่มนี้ต่างมีเบื้องหน้าเบื้องหลังที่ปวดและก็สุดแสนจะทรมาทรกรรมมาด้วยกันทั้งหมดทั้งปวง
ไม่เว้นแม้กระทั้งเจ้าม้า Seabiscuit เราจะได้เห็นการล้มลุกกระเสือกกระสน ความพากเพียร การต่อสู้ดิ้นรนของพวกเขา และผลตอบรับของคำว่า “ไม่ยอมแพ้” จนกระทั่งทำให้ม้าแคระแกร็นตัวนี้มีชื่อและก็นับเป็นวีรบุรุษและก็สัญลักษณ์ที่ความมุ่งมาดของชาติอเมริกันในสมัยเศรษธุระตกต่่ำตอน 1947 อย่างยิ่งจริงๆประโยคของหนังหลายๆประโยคมันก็ตามซาบซึ้งใจเสียอย่างมาก
โดยมีฉากหนึ่งมีคนบอกว่า “ม้าที่วิ่งมิได้ ก็ไม่มีความแตกต่างกับม้าที่ตายแล้ว” และกำลังจะฆ่าทิ้ง แต่ว่าด้วยประโยคนั้นทำให้ทั้งสิ้นฮึดสู้อีกที และก็ได้รู้จะกับคำว่าชัยชนะ และการสำเร็จอย่างมากใหญ่เลยทีเดียว “เราอาจจะไม่ทิ้งตลอดชาติ เพียงเพราะเหตุว่าเพียงแค่เจ็บหน่อยเดียวหรอกนะ”
3. Boxing – Million Dollar Baby
นอกเหนือจากบาส บอล ก็มวยนี่แหละนะครับ หนังกีฬาฟุตบอล ที่ไม่ว่าจะไปตรงไหนของไทยก็ชอบได้เห็น ไม่ว่าจะเป็นกางเกงมวย หรือสนามแข่งมวย Thai Fight เอ่ย หรือนักมวยมีชื่อต่างๆบ้าง ต่อยกันข้างทางบ้าง (และยังรวมไปถึงต่อยกันในที่ประชุม) เห็นไหมขอรับว่าเราผูกพันกับมวยเท่าไร แล้วก็หลายๆประเทศด้วยก็เหมือนกัน โดยยิ่งไปกว่านั้นหนังมวยในตำนานอย่าง Rocky ที่ยิ่งทำออกมาเรื่อยๆก็แป้กมาเรื่อยและก็ Southpaw, Creed, Alli, Cinderella man ถึงแม้อย่างไรก็ตามผมจะขอพูดถึงหนังที่ประทับดวงใจและจากนั้น
ก็ทรมาทรกรรมหัวใจเป็นอย่างยิ่งกับเรื่อง Million Dollar Baby หนังเล่าราวง่ายเกี่ยวกับนักมวยหญิงคนหนึ่งที่เดินเข้ามาในโรงยิมก็แค่เพื่อต้องการจะเป็นนักต่อยด้วยจิตใจที่แน่แน่วของคุณ แต่เธอจำต้องมาเจอกับครูฝึกสุดโหดร้าย ที่ปิดตัว เก็บเนื้อเก็บตัว ไม่ยินยอมสอนคนใดกันอีก และไม่เคยต่อให้ฝึกซ้อมนักมวยหญิง แต่ว่าด้วยความแน่วแน่ของเธอ เขาก็ใจอ่อน หนังเช่นเดียวกันกับจะมีพล็อตที่ปกติ และไม่มีอะไรแปลกใหม่ แต่เชื่อเถอะ หนังโคตรดีจริงๆรับประกันด้วย 4 รางวัลออสการ์ จากการเข้าชิง 7 รางวัล ไม่ว่าจะเป็น สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับหนังเยี่ยมที่สุด, นักแสดงนำหญิงดีเลิศและจากนั้นก็ดาราหนังสมทบชายดีงาม เรื่องนี้กวาดเรียบ
4. Racing – Rush
พวกเราอาจได้เห็นหนังแข่งรถมาเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นแฟรนไชส์ The Fast ที่ไม่มีท่าทีว่าจะจบจะสิ้นและก็เสมือนแม้ยังทำต่อ มีหวังเราได้มองเห็นรถยนต์บินไปอวกาศแน่นอนหรือแข่งรถแบบใต้ดิน หนีตำรวจ Need For Speed เอ่ย อะไรเอ่ย แต่จะมีหนังสักกี่เรื่อง ที่เกี่ยวพันกับการแข่งรถจริงๆผมบอกได้เต็มปากเลยว่า นี่เป็นหนังแข่งรถที่ดีเยี่ยมที่สุด
เท่าที่ผมเคยมองดูมา ซึ่งสร้างจากเรื่องจริงของวงการรถยนต์สูตร 1 หรือ F1 ในตอนปี 70 เป็นปีที่รถยนต์ F1 บูมเยอะมากๆซึ่งเกิดเหตุราวของการขับต้มของสองนักขับที่ต่างกันสุดขีด เปลี่ยนกันแพ้บ้าง ชนะบ้าง ของ เจมส์ ฮันท์ นักแข่งคนอังกฤษผู้บุ่มบ่าม กับ นิกกิ เลาดา นักแข่งขันเชื้อชาติออสเตรีย สุดอัจฉริยะ ทำให้ทั้งสองจำเป็นต้องขับเคี่ยวกันไม่เฉพาะแต่ในสนามสำหรับเพื่อการแข่งขันเท่านั้น ยังแข่งขันกันข้างนอกสนามแข่งอีกด้วย ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง
5. Horse – Seabiscuit
หนังประเด็นนี้ Sport กีฬา หนังกีฬาฟุตบอล เป็นหนังที่ชัดที่สุดกับคำว่า “ไม่ยอมแพ้” เพราะเหตุว่าหนังประเด็นนี้ดำเนินเรื่องด้วยความ “ไม่พร้อม” ไปเสียทุกๆสิ่งทุกๆอย่าง แต่ด้วยความไม่พร้อมนั่นแหละ ทำให้ไม่รู้จักพอ แล้วก็เติมเต็ม ให้พร้อมเท่าที่จะทำเป็น ทำให้ต้องพยายาม มากกว่าผู้อื่น หนักกว่าคนอื่นแล้วก็นั่นแหละเมื่อพวกเราไม่ยอมแพ้ผลที่ได้ก็เป็นเช่นเดียวกันกับหนังเรื่องนี้ครับ
Seabiscuit
เป็นเรื่องราวสุด แสนจะสร้างแรงบันดาลใจ ให้กับคนหลายคน ซึ่งสร้างขึ้น จากข้อเท็จจริง ของ ชาร์ล โฮเวิร์ด อดีตช่างซ่อมรถเขามีม้าเล็กแกร็นตัวหนึ่งชื่อเดียวกับชื่อซึ่งก็คือ Seabiscuit จนกระทั่งเขาได้มาเจอกับอดีตสมัยนักมวย ที่ตาเสียไปหนึ่งข้างอย่าง เรด พอลลาร์ด ซึ่งจะมาเป็นจ๊อกกี้ชิงชัยม้าให้กับเขา พร้อมด้วยสมัยโบราณจ๊อกกี้มีชื่ออย่าง ทอม สมิธ ที่จะมาเป็นโค้ชให้เรื่องราวของผู้คนกลุ่มนี้ ต่างมีเบื้องหลังที่ปวดรวมทั้งสุดแสน จะทรมานมาด้วยกันทั้งผอง
ไม่เว้นแม้แต่เจ้าม้า Seabiscuit เราจะได้มองเห็นการล้มลุกล้มลุกคลุกคลาน ความมานะ การต่อสู้ดิ้นรน ของพวกเขา แล้วก็ผลตอบรับของคำว่า “ไม่ยอมแพ้” กระทั่งทำให้ม้าแคระแกร็นตัวนี้มีชื่อแล้วก็นับเป็นวีรบุรุษและก็เครื่องหมายที่ความมุ่งมาดของชาติอเมริกันในสมัยเศรษธุระตกต่่ำช่วง 1933-1947 อย่างยิ่งจริงๆประโยคของหนังหลายๆประโยคมันก็ช่างซาบซึ้งใจเสียอย่างยิ่ง
โดยมีฉากหนึ่งมีคนพูดว่า “ม้าที่วิ่งไม่ได้ ก็ไม่แตกต่างกับม้าที่ตายแล้ว” รวมทั้งกำลังจะฆ่าทิ้ง แต่ด้วยประโยคนั้นทำให้ทั้งปวงฮึดสู้อีกครั้ง รวมทั้งได้ทราบจะกับคำว่าความมีชัย แล้วก็การประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมากใหญ่เลยทีเดียว “เราอาจจะไม่ทิ้งตลอดชีวิต เพียงเพราะเหตุว่าเพียงแค่เจ็บเล็กน้อยหรอกนะ”