เงียบซ่อนตาย Speak No Evil (2024)

เงียบซ่อนตาย Speak No Evil (2024) เป็นภาพยนตร์สยองขวัญจิตวิทยาเชื้อชาติอเมริกันที่ออกฉายในปี 2024 เขียนบทรวมทั้งดูแลโดยเจมส์ วัตรับประทานส์ ภาพยนตร์หัวข้อนี้สร้างใหม่จากภาพยนตร์เดนมาร์กชื่อเดียวกันที่ออกฉายในปี 2022 แสดงนำโดยเจมส์ แม็กอะวอย แม็คเคนซี่ เดวิส ไอส์ลิง ฟรานสิโอซี อลิกซ์ เวสต์ เลฟเลอร์ ดินแดน ฮัฟ และก็สกู๊ต แม็กแนรี เรื่องราวเอ่ยถึงครอบครัวคนประเทศอเมริกาที่ได้รับเชิญชวนให้ไปพักที่ฟาร์มเฮาส์ไกลห่างของคู่ครองคนประเทศอังกฤษในตอนสุดสัปดาห์ โดยเร็วนี้ๆเจ้าของงานก็เริ่มทดลองข้อจำกัดของแขกเมื่อเหตุการณ์ทวีความร้ายแรงขึ้น เจสัน บลัมทำหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ผ่านแบนเนอร์ Blumhouse Productions ของเขา

Speak No Evil ฉายรอบรอบแรกที่โรงหนัง DGA ในนิวยอร์กสิตี้ตอนวันที่ 9 เดือนกันยายน 2024 และก็ออกฉายในประเทศสหรัฐอเมริกาโดย Universal Pictures ช่วงวันที่ 13 เดือนกันยายน 2024 ภาพยนตร์หัวข้อนี้ได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงบวกจากนักวิพากษ์วิจารณ์โดยธรรมดา แล้วก็ทำรายได้ทั่วทั้งโลก 43 ล้านเหรียญสหรัฐจากงบประมาณ 15 ล้านเหรียญสหรัฐ

เรื่องย่อ เงียบซ่อนตาย Speak No Evil (2024)

เมื่อครอบครัวคนประเทศอเมริกาได้รับคำเชื้อเชิญให้ไปใช้เวลาตอนวันสุดสัปดาห์ที่บ้านในบ้านนอกที่สงบเงียบของครอบครัวคนประเทศอังกฤษแสนสวย ที่พวกเขาได้ผูกไมตรีกันในระหว่างตอนพักร้อน สิ่งที่เริ่มจากการเป็นวันหยุดในฝันได้เปลี่ยนแปลงเป็นฝันร้ายที่รุกรามจิตใจของพวกเขาอย่างเร็ว

นำแสดงโดย

• เจมส์ แม็คอะวอย รับบท แพดดี
• แม็คเคนซี เดวิส รับบท ลูอิส
• สกู๊ต แม็คนายรี รับบท เบน ตัลตัน
• ไอส์ลิง ฟรานซิโอซี รับบท เซียรา
• อลิซ เวสต์ เลฟเลอร์ รับบท แอกเนส
• แดน เฮาจ์ห รับบท แอนท์

เงียบซ่อนตาย Speak No Evil (2024) ต้นฉบับที่เป็นหนังเดนมาร์กรวมทั้งมีชื่อไทยว่า “พักร้อนหลบซ่อนตาย” นั้น เกิดเรื่องราวที่คริสเตียน ทาฟดรูป ผู้กำกับ ได้แรงจูงใจมาจากการเจอเพื่อนฝูงใหม่ระหว่างไปพักร้อนแล้วเชื้อเชิญเขากับแฟนท่องเที่ยวบ้าน แล้วทาฟดรูปก็เอามาจินตนาการต่อเกิดเรื่องราวเขย่าขวัญเกี่ยวกับคู่สมรสคู่หนึ่งที่ได้พบครอบครัวคนที่ไม่รู้จักที่ถูกคอกันดี แล้วหลังจากนั้นก็ถูกชักชวนท่องเที่ยวที่บ้านกึ่งกลางป่าเช่นเดียวกัน ก่อนจะเจอความเป็นจริงว่าทั้งปวงเป็นกับมรณะ

แก่นของหนังกล่าวถึงการที่บางบุคคลบากบั่นจะรักษามรรยาทด้านสังคมมากเกินความจำเป็นจนกระทั่งปลดปล่อยให้คนอื่นๆมาล้ำเส้นตนเอง และไม่ยอมกล่าว ไม่ยินยอมติดต่อสื่อสารหรือล้มเหลวที่จะติดต่อสื่อสารระหว่างกันจนกระทั่งก่อให้เกิดเรื่องร้าย แล้วก็หนังประเด็นนี้ก็แสดงให้เห็นว่าเรื่องร้ายที่ว่านั้นมันร้ายได้ร้ายแรงถึงกับขนาดไหน พูดได้ว่าจบได้อย่างทุกข์ใจแล้วก็ช้ำใจสำหรับผู้ที่เลือกที่จะเงียบเพื่อมรรยาท ผู้แสดงนำของประเด็นนั้นยอมปลดปล่อยให้สหายใหม่ล้ำเส้นเขาเรื่อยจากเรื่องง่ายๆอย่างการที่บังคับอ้อมๆให้เมียที่เป็นมังสวิรัติของเขาจำต้องจำยอมรับประทานเนื้อสัตว์ในของกินมื้อแรกด้วยเหตุว่าต้องการรักษาน้ำใจของเพื่อนพ้องไม่คุ้นหน้า จนกระทั่งสุดท้ายมารุกล้ำไปถึงชีวิตของบุตรสาวรวมทั้งเมียของเขา และก็กว่าจะรู้สึกตัวอีกครั้งก็มีภาวะไม่มีความต่างจากเหยื่อแบบในหนังแนว “torture porn”

รีวิวหนัง Speak No Evil (2024)

ก่อนหน้านั้น มันเคยเป็นหนังเดนมาร์กที่มีชื่อไทยว่า ‘พักร้อนแอบซ่อนตาย’ ที่ลาสุดก็หาดูได้ใน Netflix ผ่านมา 2 ปี บลัมเฮ้าส์ที่ซื้อลิขสิทธิ์ไปก็รีเมกใหม่ออกฉายเป็นที่เป็นระเบียบ ด้วยไอเดียและก็กรรมวิธีการเล่าที่เปลี่ยนแปลงเนื้อหาไปบ้างในครึ่งแรก แต่ว่าไม่เหมือนกันออกไปเลยในช่วงหลัง ในช่วงเวลาที่ชนชาติของครอบครัวในเรื่องก็แปรไป แล้วก็ชื่อของผู้แสดงก็เหลือเพียงแค่ หฝ่าส์ และก็แอ็กเนส เพียงแค่นั้นที่ยังคงเดิม

ระหว่างมอง สิ่งที่เจอก็คือ บทของนายตัวร้ายเจ้าของบ้าน ถูกปรับให้แสดงออกแบบโจ่งแจ้งเพิ่มมากขึ้นกว่าต้นฉบับ เขาแสดงด้วยการเข้าพบครอบครัวคนอเมริกันเยอะขึ้นเรื่อยๆ บทสำหรับพูดก็เพิ่มมากขึ้นด้วย ต่างกับเวอร์ชันเดิมที่จะมองนิ่งกว่า มองเป็นมิตรกว่า ถึงแม้บ้างจะบอกกันว่า เวอร์ชันนี้ยังคงให้ความรู้ความเข้าใจสึกไม่น่าไว้วางใจราวกับตัวอย่างเช่นเดิม แม้กระนั้นนายแพทกลับรู้สึกต่างไป

ฉากจบของต้นฉบับก็เลยกล่าวได้ว่าเสียงแตกหนุ่มพอควร

บ้างพูดว่าหมดหวัง เสียใจ เพราะอะไรผู้แสดงนำชายถึงมัวแต่ “speak no evil” อีกทั้งกับเพื่อนฝูงใหม่แล้วก็กับเมียของตนจนถึงทำให้เกิดหายนะ แม้กระนั้นก็มีอีกส่วนที่พูดว่าก็สมควรแล้ว ราวกับอย่างฉากที่ผู้แสดงนำชายถามตัวร้ายว่า “เพราะเหตุไรอย่างนี้กับพวกเราเพราะเหตุไร” แล้วตัวร้ายตอบว่า “ก็เนื่องจากว่านายยินยอมให้ทำยังไงล่ะ” ดารานำชายของพวกเรามองเป็นคนขี้เกรงใจ เกลียดชังมีเรื่องมีราวกับคนใดกัน มัวแต่บอกตนเองว่าช่างเถอะๆในขณะที่ถูกล้ำเส้น แถมยังไม่อุตสาหะติดต่อสื่อสารให้คนที่อยู่รอบข้างได้ทราบเมื่อตนเองเจอถึงความเปลี่ยนไปจากปกติอีกต่างหาก ก็เลยได้มีวาระสุดท้ายแบบในหนัง ดารานำชายประพฤติตัวเองล้วนๆ

เงียบซ่อนตาย Speak No Evil (2024) เป็นภาพยนตร์ฮอลลีวูดรีเมคจากภาพยนตร์สยองขวัญเดนมาร์กปี 2022 ที่ได้รับข้อคิดเห็นในเชิงบวก ดูแลโดยเจมส์ วัตรับประทานส์ พรีเซ็นท์การปรับเปลี่ยนที่สดใหม่แม้กระนั้นยังคงความเหมือนจริง มอบประสบการณ์ที่เคร่งเคลียดและก็น่าหวาดหวั่น แม้ว่าจะเดินเรื่องตามเค้าเรื่องทั่วๆไปของต้นฉบับ โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่คู่สมรสที่ติดอยู่ในเหตุการณ์ที่น่าวิตกกังวลมากเพิ่มขึ้นแม้กระนั้นก็มีจุดต่างกันในบางช่วงที่สำคัญ โดยเพิ่มจุดหักเหของตนเองที่ทำให้เรื่องราวมีรสชาติใหม่

ภาพยนตร์ประเด็นนี้แสดงนำโดยเจมส์ แม็กอะวอยในบทแพดดี้ โฆษกที่น่าเคารพซึ่งมีบุคลิกลักษณะที่ปรวนแปรรวมทั้งมีเสน่ห์ รวมทั้งแม็กเคนซี เดวิสในบทหฝ่าส์ ซึ่งตื่นตระหนกเยอะขึ้นเรื่อยๆเมื่อเรื่องราวคลี่คลาย สกู๊ต แม็กสตรีและก็ไอสลิง ฟรานสิโอซียังแสดงได้ดีเลิศ โดยสวมบทบาทเป็นคู่ชีวิตที่โชคร้ายและก็ผู้ดำเนินรายการที่เป็นมิตรที่น่าหวาดหวั่นเป็นลำดับ การแสดงของ McAvoy ในบท Paddy ได้รับการเชิดชูเป็นพิเศษสำหรับความเดามิได้แล้วก็ความเข้มข้นของเขา ซึ่งเพิ่มความเคร่งเครียดด้านจิตวิทยาของภาพยนตร์ให้เข้มข้นเพิ่มขึ้น

บรรยากาศของภาพยนตร์ได้รับการผลิตสรรค์อย่างละเอียดลออ

โดยรักษาความตื่นเต้นที่เบาๆร้ายแรงขึ้น ซึ่งเบาๆสร้างความระทึกใจจนกระทั่งจุดสูงสุดที่น่าวิตก Watkins ซึ่งมีชื่อเสียงจากผลงานในรูปภาพยนตร์สยองขวัญอย่าง Eden Lake รวมทั้ง The Woman in Black ใช้การข่มใจได้อย่างมีคุณภาพเพื่อสร้างความหวาดกลัว โดยชอบอาศัยสิ่งที่ไม่เห็นเพื่อเพิ่มความเคร่งเครียด

หากว่าภาพยนตร์ประเด็นนี้จะลดความห่อเหี่ยวอันขาดความกรุณาปรานีของต้นฉบับลงบ้าง แม้กระนั้นก็ยังคงมีแรงกดดันที่ทำให้ผู้ชมนั่งไม่ติด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในองก์ลำดับที่สามที่เข้มข้น

ภาพยนตร์หัวข้อนี้ยังได้ตรวจธีมของความอึดอัดทางด้านสังคมแล้วก็อันตรายของความอ่อนโยน ซึ่งเบาๆทวีความร้ายแรงขึ้นเป็นความสยองขวัญเมื่อความเกี่ยวข้องที่ดูราวกับว่าปลอดภัยกลายเป็นความชั่วร้าย

โดยรวมแล้ว เงียบซ่อนตาย Speak No Evil (2024) เป็นภาพยนตร์สยองขวัญที่สุดยอด มีการแสดงที่เด่น และก็เรื่องราวที่น่าติดตาม ซึ่งทำให้ผู้ชมลุ้นระทึกตั้งแต่ต้นจนถึงจบ

Speak No Evil (2024) เป็นภาคต่อจากที่พวกเราหยุดไว้ โดยมิได้เป็นเพียงแต่การผลิตใหม่แบบช็อตต่อช็อตจากของเดิมภาษาเดนมาร์กแค่นั้น แต่ว่ายังเพิ่มส่วนประกอบที่เป็นเอกลักษณ์เข้าไปด้วย ซึ่งทำให้หนังน่าดึงดูดในตนเอง เวอร์ชันภาษาเดนมาร์กเริ่มแรกมีโทนที่กระจ่างแจ้งและก็ท้อใจ ซึ่งนักวิพากษ์วิจารณ์บางบุคคลมีความรู้สึกว่าถูกทำให้มองอ่อนลงในเวอร์ชันฮอลลีวูดนี้ แม้กระนั้นก็ไม่ถึงขนาดที่หนังสูญเสียความเข้มข้นไป

การแสดงของเจมส์ แม็กอะวอยในบทแพดดี้ลักขโมยซีนได้อย่างยอดเยี่ยม โดยพลังงานที่ผันแปรรวมทั้งรุกรามของผู้แสดงของเขาช่วยสร้างบรรยากาศให้กับความตื่นเต้นเป็นส่วนมาก ความเกี่ยวข้องของเขากับผู้แสดงเบ็นที่สวมบทบาทโดยสกู๊ต แม็กแนรี เพิ่มความเคร่งเครียดทางด้านจิตวิทยาเมื่อลักษณะท่าทางของพวกเขาขัดแย้งกัน พลวัตนี้สร้างเอฟเฟกต์ผลัก-ดึง โดยที่แพดดี้ของแม็กอะวอยล่อลวงเบ็นไปสู่การเต้นรำทางอารมณ์ที่พิศดารซึ่งส่งผลให้เกิดดินแดนที่มืดมนเพิ่มขึ้น

การแสดงของแม็คเคนซี่ เดวิสในบทหฝ่าส์ช่วยเติมเต็มส่วนนี้ด้วยการแสดงให้มองเห็นถึงความระแวงของคุณ ในช่วงเวลาที่การเดินทางแบบสบายๆในตอนแรกเปลี่ยนไปเกิดเรื่องที่ควบคุมมิได้

การควบคุมของวัตรับประทานส์นั้นน่าสังเกตเพราะเหตุว่าย้ำไปที่การผลิตความตื่นเต้น

ซึ่งก็ดังผลงานก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาของเขาใน Eden Lake ความรู้ความเข้าใจของเขาสำหรับเพื่อการสร้างสิ่งแวดล้อมที่น่าวิตกกังวลแล้วก็อึดอัดนั้นเห็นได้ชัดในฉากฟาร์มเฮาส์ ซึ่งทั้งสองเริ่มใส่ใจว่าพวกเขาติดอยู่ในเกมอันตรายที่ความสุภาพอ่อนโยนด้านสังคมแปลงเป็นศัตรูกัน

ลักษณะที่ค่อยๆเป็นค่อยๆไปของความสยองขวัญ ประสมประสานกับความจองหองในชนชั้นแล้วก็ความอึดอัดทางด้านสังคม ทำให้มีความรู้สึกกลุ้มใจเป็นอย่างมาก ทำให้ผู้ชมรู้สึกไม่ค่อยสบายใจไปตลอด

ในด้านของความลึกล้ำของรายละเอียด ภาพยนตร์ประเด็นนี้ยังคงตรวจสอบอันตรายของความอืดอาดยืดยาดแล้วก็ความเรียบร้อย ซึ่งเป็นธีมหลักของภาพยนตร์ต้นฉบับ ภาพยนตร์วิภาควิจารณ์ว่าความมุ่งมาดของสังคมต่อความเรียบร้อยบางทีบางทีอาจส่งเสริมให้บุคคลไปสู่เหตุการณ์อันตรายได้ เพราะพวกเขาสุภาพมีมารยาทเกินความจำเป็นหรือกลัวเกินกว่าจะลวนลาม หัวข้อนี้เพิ่มชั้นของความสยองขวัญทางด้านจิตวิทยาที่ผู้ชมรู้สึกได้ ทำให้เรื่องราวในรูปภาพยนตร์มองน่าสยองและก็น่าไว้วางใจ

สรุปแล้ว เงียบซ่อนตาย Speak No Evil (2024) สามารถรักษาความเคร่งเครียดหลักของต้นฉบับไว้ได้เสร็จ ในเวลาเดียวกันก็สร้างเอกลักษณ์ของตนเองด้วยการแสดงที่เข้มแข็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก McAvoy และก็การควบคุมที่ช่ำชองที่ทำให้ผู้ชมติดตามจนถึงจบ

โดยรวมแล้ว มันก็ยังคงเป็นหนังที่เล่าเดิมล่ะ บุตรสาวของครอบครัวแขก

ยังคงเป็นตัวละครที่เชิญขัดใจ ติดตุ๊กตาโปรดจนกระทั่งทำให้ครอบครัวไปสู่เหตุเลวทราม ส่วนบิดามารดาก็ขี้เกรงใจ ไม่กล้าไม่ยอมรับ ท้ายที่สุดก็ทำให้พวกเขาจำเป็นต้องประจันหน้ากับความตาย สิ่งที่เพิ่มเติมอีกมาเป็น บางที พวกเราก็เผยชีวิตส่วนตัวให้ผู้ที่พึ่งจะรู้จักมากจนเกินไปโดยไม่ทันได้รู้สึกตัว แล้วบังเอิญไปพบคนแปลกพิกลที่กำลังมองหาคนแบบคุณอยู่ก่อนแล้ว ท้ายที่สุด คุณก็เลยเปลี่ยนเป็นเหยื่อนั่นเอง

สำหรับนายแพทแล้ว ด้วยแนวทางเล่นอย่างนี้ ครึ่งแรกของหนังเลยมิได้สร้างความเคลือบแคลงหรือระแวงมากสักเท่าไรนัก เพราะว่าพวกเรารู้จักครอบครัวนี้มาก่อนแล้ว แม้กระนั้นช่วงหลัง หนังหันไปเล่าอีกแบบที่ต่างจากตันฉบับ ทำให้มันแปลงเป็นหนังที่สนุกสนานด้วยเหตุว่าผู้ชมจะได้ลุ้นไปกับการเอาชีวิตรอดของครอบครัวที่ไม่เคยรู้จะเรียกว่า “เคราะห์ไม่ดี” ดีหรือไม่ แล้วก็มีบางช็อตที่ทำให้ผู้ชมในรอบสื่อถึงกับตบมือให้

เวอร์ชั่นเริ่มแรกนั้นมันจะออกจะดำเนินเรื่องแบบไม่รีบร้อน แม้กระนั้นยัดเยียดข้อหาน่าระแวงอยู่ในนั้น ก่อนที่จะแปลงโหมดเป็นสยองขวัญรวมทั้งพาดำตรงในช่วงท้าย ก็เริ่มเข้าใจว่าหนังยุโรปมันก็จะราวๆนี้ แม้กระนั้นเมื่อรีเมกใหม่ให้เป็นหนังอเมริกัน มันก็จะแปลงเป็นอีกแบบ ตัวร้ายจะต้องส่งสายตาพิฆาตมาตั้งแต่ต้น จบท้ายด้วยอีกอารมณ์ที่พาผู้ชมลุ้นระทึกแบบนั่งรถไฟบิน ก็อาจจะขึ้นกับผู้ชมว่าจะถูกใจหรือถูกจริตกับสไตล์ไหน ส่วนผมเองนี่ยังตกลงใจมิได้เลยว่าถูกใจอันไหนมากยิ่งกว่ากัน autisme-vienne